?ใช้แท่งเหล็กโค้ง! ขยายท่อฉี่ตีบ!! สอนโดยมหาศัลยแพทย์แห่งยุค!!!?

เรื่องก่อนใหม่ ไทยยูโร?
?ใช้แท่งเหล็กโค้ง! ขยายท่อฉี่ตีบ!! สอนโดยมหาศัลยแพทย์แห่งยุค!!!?


ระหว่างปี พ.ศ. 2465-66 ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประวัติศาสตร์การแพทย์ไทย จากการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยอันมีสมเด็จพระบรมราชชนกทรงเป็นผู้แทน กับมูลนิธิรอกกี้เฟลเลอร์ มีการคัดเลือกอาจารย์หมอฝรั่งที่ทรงคุณวุฒิจำนวน 6 ท่านเข้ามาวางรากฐานการแพทย์แผนปัจจุบันและการเรียนแพทย์แก่รพ.ศิริราช อาจารย์หมอโนเปิล ซึ่งเป็นหมอผ่าตัดที่เก่งกาจมาก ผ่าตัดได้หลายอย่างทั้ง ผ่าตัดทั่วไป ผ่าตัดระบบปัสสาวะ ผ่าตัดหู คอ จมูก และผ่าตัดตา ท่านได้เข้ามาทำงานในสยามนานถึง 13 ปี (พ.ศ. 2466-79)
อาจารย์หมอสมัย จันทวิมลเล่าว่า ?ในสมัยนั้น ประชาชนเป็นโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะกันมาก นอกจากโรคนิ่วแล้ว ยังมีโรคที่พบบ่อยที่บันทึกไว้คือ ท่อปัสสาวะตีบจากโรคหนองใน ซึ่งเกิดเป็นซ้ำซาก ผู้ป่วยทุกข์ทรมานจากการปัสสาวะไม่ออก ซึ่งการรักษาจะใช้วิธีการขยายท่อปัสสาวะ โดยใช้แท่งเหล็กโค้ง (บูร์จี) ในการรักษา แพทย์ต้องใช้ความปราณีตบรรจงมากมิฉะนั้น แท่งเหล็กอาจทะลุท่อปัสสาวะจนเกิดอาการแทรกซ้อนมากมาย?
อาจารย์หมอโนเปิลจะสอนลูกศิษย์เสมอว่า ?ความปราณีตบรรจงเป็นศิลปของศัลยศาสตร์? ท่านเป็นกำลังสำคัญในการปรับปรุงการเรียนวิชาการผ่าตัด และงานวิจัย ที่สำคัญคือท่านเป็นผู้สร้างหมอผ่าตัดชาวไทยอีกหลายคน เพื่อสืบสานการพัฒนาวิชาการผ่าตัดของไทยในเวลาต่อมา อาจารย์หมอเสม พริ้งพวงแก้วได้ยกย่องท่านว่าเป็น ?มหาศัลยแพทย์แห่งยุค? ผู้วางรากฐานด้านการผ่าตัดระบบปัสสาวะของไทยให้ทัดเทียมต่างประเทศ


ที่มา: หนังสือ 3 ทศวรรษ ยูโรไทยฯ
นำเสนอ: รศ.นพ.พิษณุ มหาวงศ์

Stay Connected

Popular Knowledge

เข้าสู่ระบบ


ลงทะเบียน

(เฉพาะสมาชิก TUA เท่านั้น)

กรุณากรอกข้อมูลด้านล่าง

กู้คืนรหัสผ่านของคุณ

กรุณาระบุอีเมลของคุณ